0%

ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของหน้าเว็บไซต์

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

บริษัท เอสเอวายเอ (ประเทศไทย) จํากัด

บริษัท เอสเอวายเอ (ประเทศไทย) จํากัด (“บริษัท”) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ได้รับมาจากท่าน วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผล ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังนี้

ข้อ 1. คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท เอสเอวายเอ (ประเทศไทย) จํากัด โดยบริษัทดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับรีสอร์ท และโรงแรม (โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม)

“ท่าน” หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เอสเอวายเอ (ประเทศไทย) จํากัด ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ลูกค้า คู่ค้า ตัวแทน ผู้รับเหมา ผู้ติดต่อภายนอกและบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง
ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต

ข้อ 2. ช่องทางและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท โดยตรง: ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทโดยตรง เมื่อท่านแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาหรือใช้บริการกับบริษัท หรือเมื่อท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมายังบริษัท หรือเมื่อท่านติดต่อ สอบถามข้อมูล หรือกรณีที่ท่านแลกบัตรเพื่อขอเข้าพื้นที่อาคาร

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ: บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติ เช่น การจัดเก็บข้อมูลบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด (Closed-circuit television: CCTV) การเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) ของท่านโดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Notice)” ของบริษัท

ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวมรวบภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในประเภทดังต่อไปนี้

  1. ลูกค้า คู่สัญญา และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่เป็นคู่สัญญาหรือมีความเกี่ยวข้องตามสัญญาใด ๆ กับบริษัท ซึ่งหมายความรวมถึงลูกค้า คู่ค้า ผู้ขาย ผู้จัดหา ผู้ให้บริการ ผู้รับทำงาน ผู้รับเหมา ที่ปรึกษา และบุคคลอื่น ๆ ในลักษณะคล้ายคลึงกัน
  2. ผู้ติดต่อภายนอก และบุคคลภายนอกอื่น ได้แก่ ผู้ติดต่อ ผู้ขอเข้าพื้นที่ ผู้ขนส่ง และบุคคลอื่นใดซึ่งติดต่อเพื่อขอข้อมูลหรือขอสอบถามบริการจากบริษัท ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยทางตรงหรือทางอ้อม
  3. บุคคลอื่น ได้แก่ บุคคลที่สามที่ท่านส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท


3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและอยู่ภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ได้รับมาจากบุคคลภายนอก เช่น

  1. ข้อมูลลูกค้า คู่สัญญา หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท

                         1.1 ข้อมูลผู้เช่าพื้นที่ อาทิ ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ และข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการเข้าทำสัญญา เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท เป็นต้น

                         1.2 ข้อมูลผู้เข้าพัก อาทิ ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด สัญชาติ ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการบริหารจัดการผู้เข้าพัก เป็นต้น

                         1.3 ข้อมูลผู้ขอรับบริการที่จอดรถ อาทิ ชื่อ นามสกุล หมายเลขทะเบียนรถยนต์ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบขับขี่ สำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์/รถจักรยานยนต์ เป็นต้น

                         1.4 ข้อมูลผู้รับเหมา อาทิ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลกรรมการในสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล เป็นต้น

                         1.5 ข้อมูลคู่ค้า อาทิ ชื่อ นามสกุล สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองบริษัท เป็นต้น

                         1.6 ข้อมูลลูกค้าสมาชิก Prestige Card อาทิ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่

                         1.7 ข้อมูลลูกค้าบริการจัดงานเลี้ยงหรืองานอีเว้นท์ อาทิ ชื่อ นามสกุล ข้อมูลติดต่อ เป็นต้น

                         1.8 ข้อมูลบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด (Closed-circuit television: CCTV) ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับท่านเช่น ยานพาหนะ เมื่อท่านเข้าไปในพื้นที่ภายในสถานที่ อาคาร หรือพื้นที่ใด ๆ ของบริษัท ผ่านระบบและอุปกรณ์กล้องวงจรปิด โดยจะติดตั้งอุปกรณ์กล้องวงจรปิด ภายในจุดสำคัญของอาคาร พื้นที่ต่าง ๆ อาทิเช่น ประตูทางเข้า โถงทางเดิน หน้าลิฟต์ เป็นต้น

  1. ข้อมูลผู้ติดต่อภายนอก และบุคคลภายนอกอื่น

                         2.1 คนขับรถรับ-ส่งของ อาทิ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรประชาชน บันทึกภาพบัตรประจำตัวประชาชน

                         2.2 ผู้มาติดต่อภายนอก อาทิ ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน บันทึกภาพถ่ายผู้มาติดต่อ เป็นต้น

                         2.3 ข้อมูลบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด (Closed-circuit television: CCTV) ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับท่านเช่น ยานพาหนะ เมื่อท่านเข้าไปในพื้นที่ภายในสถานที่ อาคาร หรือพื้นที่ใด ๆ ของบริษัท ผ่านระบบและอุปกรณ์กล้องวงจรปิด โดยจะติดตั้งอุปกรณ์กล้องวงจรปิด ภายในจุดสำคัญของอาคาร พื้นที่ต่าง ๆ อาทิเช่น ประตูทางเข้า โถงทางเดิน หน้าลิฟต์ เป็นต้น

  1. ข้อมูลของบุคคลอื่น อาทิ ข้อมูลผู้ติดต่อสำรอง ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านรับรองว่าได้รับความยินยอมและได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแล้ว ในการเก็บ ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้แล้ว
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เอกสารในการแสดงตัวตนอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ศาสนา หมู่เลือด ทั้งนี้บริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว โปรดขีดฆ่าหรือปิดทึบข้อมูลก่อนส่งมอบเอกสารแก่บริษัท หากท่านมิได้ดำเนินการตามที่แจ้ง บริษัทอาจดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทึบข้อมูลดังกล่าว หากในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมและขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม เว้นแต่จะมีกฎหมายยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเอาไว้ เช่น การคุ้มครองแรงงาน ประกันสังคม ป้องกันระงับอันตรายต่อชีวิต ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข การปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อยกเว้นอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

ข้อ 4. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”) และภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

4.1.1 เพื่อให้บริษัท สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามวัตถุประสงค์ (Contract)เช่น เพื่อเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้นหรือเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี อาทิ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการจองห้องพัก อำนวยความสะดวก การบริหารจัดการแขกผู้เข้าพัก ลูกค้าห้องอาหาร หรือปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท

4.1.2 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ เช่น เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัท หรือเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย อาทิ กฎหมายคนเข้าเมือง (แจ้งที่พักคนต่างด้าวแก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม. 30 ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522) กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายภาษีอากร ประมวลรัษฎากร (การออกใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้) คำสั่งศาล พนักงานอัยการ หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท

4.1.3 เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่เกินขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest)  เช่น การเก็บข้อมูลคนขับรถรับ-ส่งของ หรือผู้ติดต่อภายนอกผ่านการบันทึกภาพวงจรปิด การแลกบัตรก่อนเข้าพื้นที่ของบริษัท บันทึกผู้มาติดต่อ เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในอาคารและรักษาความปลอดภัยของบริษัท บุคลากร บุคคลอื่น รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูลของบริษัท หรือกรณีการเก็บข้อมูลผู้เช่า ผู้เข้าพักหรือคู่สัญญาเป็นการประมวลผลเพื่อจัดทำหรือบริหารจัดการสัญญา การตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนของคู่สัญญา การรับข้อร้องเรียน การแจ้งขอซ่อมแซม รวมถึงเพื่อเป็นข้อมูลในการติดต่อสื่อสารกับท่าน เป็นต้น

4.1.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท (Public Task) หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท

4.1.5 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interest) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การติดต่อฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ

4.1.6 ความยินยอม (Consent) เมื่อบริษัทไม่สามารถอาศัยข้อยกเว้นหรืออ้างอิงฐานทางกฎหมายตามกรณีที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ บริษัทจะขอความยินยอมเป็นการเฉพาะจากท่าน โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งและที่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดหรือโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน โดยท่านสามารถขอถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ ผ่านช่องทางติดต่อ ข้อ 9.

ทั้งนี้ กรณีที่ท่านไม่ให้ความยินยอมหรือขอถอนความยินยอมภายหลัง ท่านอาจพลาดการรับข้อเสนอ โปรโมชั่น หรือสิทธิประโยชน์ของบริษัท

4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในข้อ 4.1 ข้างต้น ส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญา การเข้าทำสัญญากับท่าน หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว โปรดทราบว่าหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือบริษัทอาจไม่สามารถให้บริการ หรือปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี)

4.3 ในกรณีที่บริษัท จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทจะจัดให้มีประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เพิ่มเติม เพื่ออธิบายการใช้ข้อมูลในวัตถุประสงค์ดังกล่าวและแจ้งให้ท่านทราบก่อน  

ข้อ 5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่หน่วยงานและบุคคลดังต่อไปนี้

5.1.1 หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย อาทิ กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ ธนาคาร กรมการปกครอง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น

5.1.2 หน่วยงานที่ขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

5.1.3 พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท มอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ให้บริการ หรือบริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ บริษัทประกันภัย (กรณีมูลค่าการขอตกแต่งพื้นที่เกินตามที่บริษัทกำหนด) ด้านการพัฒนาปรับปรุง หรือดูแลรักษามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของระบบงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การตรวจสอบทางบัญชี ตรวจสอบภายใน ที่ปรึกษา เป็นต้น

5.1.4 หน่วยงานภายในบริษัท เพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของท่าน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ฝ่ายบัญชีและการเงิน และฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ในกรณีที่บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัท จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ในกรณีที่บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัท จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าบริษัท ได้ส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่เพียงพอ ในบางกรณี บริษัทอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ข้อ 6. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าว หากกฎหมายกำหนดหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัท เช่น ตามกฎหมายบัญชีและภาษี กฎหมายคนเข้าเมือง หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างกระบวนการตามกฎหมาย จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และภายหลังจากพ้นระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ทันที

6.2 บริษัท จะจัดเก็บข้อมูลการบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด ไว้ภายใน 1 เดือน โดยเมื่อครบกำหนดระยะเวลาข้อมูลจะถูกลบโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ กรณีที่จำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดี บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวจนกว่าคดีความจะสิ้นสุดลง

ข้อ 7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถขอใช้สิทธิผ่าน “แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Right Request Form)” โดยท่านสามารถติดต่อบริษัทตามข้อ 9

7.1 สิทธิขอเพิกถอนความยินยอม หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยบริษัทจะแจ้งถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอนความยินยอมดังกล่าวให้ท่านทราบ

7.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทรวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ทั้งนี้บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากการเข้าถึงหรือขอรับสำเนานั้นส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือกรณีที่ท่านไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

7.3 สิทธิขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

7.4 สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในเวลาใดก็ได้ หากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สถิติ ทั้งนี้บริษัทสามารถปฏิเสธคำร้องขอได้หากเป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือกรณีที่บริษัทแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายสำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้ง การใช้สิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามกฎหมาย

7.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าบริษัทไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้น ทั้งนี้บริษัทอาจปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวหากข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านร้องขอให้ลบนั้นจำเป็นต้องเก็บรวบรวมตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำเนินการของบริษัท

7.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัท อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทไม่มีความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

7.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องหากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน ในกรณีที่บริษัทมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย

ข้อ 8. ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้เลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะพนักงาน ลูกจ้าง ของบริษัทที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข้อ 9. วิธีการติดต่อ

หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับคำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อ ดังต่อไปนี้

       รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

      ชื่อบริษัท : บริษัท เอสเอวายเอ (ประเทศไทย) จํากัด

      ที่อยู่ : 981 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

      โทรศัพท์ : +66 (0) 2 207 4300

      อีเมล : rsvn.hisilom@ihg.com

ข้อ 10. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

บริษัท อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใด ๆ ด้วยช่องทางที่เหมาะสม

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

Book Now
oF / oC
Book Now
oF / oC